งานวัน"โรคหายาก" ประเทศไทย ปีที่ 12 Rare Disease Day Thailand (Online)
งานวัน"โรคหายาก" ประเทศไทย ปีที่ 12 Rare Disease Day Thailand (Online) วันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. 2565 เวลา 8:00-12:00 น.
งานวัน"โรคหายาก" ประเทศไทย ปีที่ 12 Rare Disease Day Thailand (Online) วันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. 2565 เวลา 8:00-12:00 น.
มูลนิธิกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้มอบให้แก่มูลนิธิฯ ด้วยความไว้วางใจ มูลนิธิฯ จึงมีระบบในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และขั้นตอนการดำเนินงานที่รัดกุม อีกทั้งมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อป้องกันการเข้าถึง เปิดเผย นำไปใช้ หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยมิได้รับอนุญาต และพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนั้น มูลนิธิฯ จึงจัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล การทำลายข้อมูล อีกทั้งสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานและการให้บริการใดๆ ของมูลนิธิฯ ทั้งด้านกองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนส่วนบุคคล และไม่ว่าจะมีการลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีหรือไม่ก็ตาม มูลนิธิฯ ขอแนะนำให้ท่านโปรดอ่านและทำความเข้าใจคำประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) นี้เพื่อรับทราบวัตถุประสงค์ที่มูลนิธิฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล การทำลายข้อมูล ตลอดจนสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ดังต่อไปนี้
1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในการเข้าถึงและใช้บริการของมูลนิธิฯ ท่านจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุถึงตัวตนของท่านเพื่อให้สามารถทำธุรกรรมเกี่ยวกับกองทุนได้ โดยรวมถึงข้อมูลที่ได้ระบุในแบบคำขอใช้บริการต่างๆ เอกสารแสดงตัวตนอันเป็นเอกสารประกอบการขอเปิดบัญชี และข้อมูลด้านการเงิน เป็นต้น ทั้งนี้ มูลนิธิฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในรูปแบบที่เป็นเอกสาร รูปภาพ และ/หรือรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มูลนิธิฯ ทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ได้แก่
1.1. ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปที่เป็นข้อมูลแสดงตัวตน (Identity Data) ซึ่งหมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ/นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วัน/เดือน/ปีเกิด รวมถึงข้อมูลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลชีวภาพ (ลายนิ้วมือ ข้อมูลใบหน้า) ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น
มูลนิธิฯ ไม่มีความประสงค์จะเก็บเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ ศาสนา หมู่โลหิต หรือข้อมูลอื่นใดนอกเหนือไปจากข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ระบุไว้แล้วข้างต้น ถึงแม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อมูลนิธิฯ
1.2. ข้อมูลติดต่อของท่าน (Contact Data) เช่น ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์
1.3. ข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลการทำธุรกรรมของท่านกับมูลนิธิฯ (Financial and Transaction Data) เช่น หมายเลขบัญชีเงินฝาก/เงินลงทุน หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขบัตรเดบิต หรือ รายงานข้อมูลการทำธุรกรรม ข้อมูลรายได้ ยอดเงินและประวัติการลงทุนที่มีอยู่กับมูลนิธิฯ เป็นต้น
1.4. ข้อมูลความชื่นชอบของท่านในการค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต (Technical and Usage Data) เช่น การค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิฯ (Website Browsing) จากการใช้ Cookies หรือการเชื่อมต่อเว็ปไซต์อื่นๆ ที่ท่านเข้าไปค้นหาข้อมูล เป็นต้น
1.5. ข้อมูลการติดต่อกับมูลนิธิฯ (Communication Data) เช่น เทปบันทึกในกรณีที่ท่านเข้ามาติดต่อมูลนิธิฯ ผ่านทาง Contact Center ซึ่งอาจเป็นภาพหรือเสียง ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ เป็นต้น และไม่ว่าโดยการที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้ หรือที่มูลนิธิฯ มีอยู่ หรือ ที่มูลนิธิฯ ได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นที่น่าเชื่อถือ เช่น หน่วยงานราชการ มูลนิธิในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน และ/หรือพันธมิตรของมูลนิธิฯ หรือที่ปรึกษาต่างๆ ของมูลนิธิฯ
1.6. ข้อมูลทางการแพทย์และสุขภาพเฉพาะที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อให้บริการตามผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านร้องขอ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่รวบรวมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของความสัมพันธ์ของท่านกับมูลนิธิฯ วิธีที่ท่านใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล และประเภทของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านมีกับมูลนิธิฯ สำหรับบุคคลที่ลงชื่อเข้าใช้ในฐานะตัวแทนของธุรกิจหรือบัญชีนิติบุคคล มูลนิธิฯ อาจรวบรวมข้อมูลตามความสัมพันธ์ของท่านกับมูลนิธิฯ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการให้บริการ
มูลนิธิฯ รวบรวมข้อมูลของผู้เยี่ยมชมที่ได้สมัครใจให้ที่อยู่อีเมลหรือข้อมูลอื่น ๆ เช่น ข้อมูลการติดต่อ และ/หรือ การลงทะเบียนบนเว็ปไซต์ ผู้เยี่ยมชมอาจถูกขอให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเว็บไซต์ของมูลนิธิฯ ผ่านแบบสำรวจ นอกจากนี้ผู้เข้าชมอาจได้รับข้อความเป็นระยะจากมูลนิธิฯ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น หากท่านไม่ต้องการรับอีเมลหรือจดหมายอื่น ๆ จากมูลนิธิฯ โปรดอัปเดตบริการสมัครสมาชิกหรือคลิกลิงก์ "ยกเลิกการสมัคร" ในจดหมายโต้ตอบทางอีเมลที่ได้รับจากมูลนิธิฯ
ข้อมูลแอปพลิเคชันมือถือ
แอปพลิเคชัน Principal TH และ Principal Provident Fund ช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงบัญชีของท่านโดยใช้อุปกรณ์ไร้สายหรือโทรศัพท์มือถือ นโยบายความเป็นส่วนตัวของมูลนิธิฯ นำไปใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่มูลนิธิฯ อาจรวบรวมผ่านแอปพลิเคชัน โดยอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับข้อกำหนดการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชันนั้นๆ โปรดดูข้อกำหนดการใช้งานและนโยบายอื่น ๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปพลิเคชันมือถือของท่าน
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2.1. เพื่อปฎิบัติตามสัญญา (Contract)
ในการขอเปิดบัญชีเพื่อทำธุรกรรม หรือการใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ที่เกี่ยวกับมูลนิธิฯ หรือที่เกี่ยวกับกองทุนภายใต้การจัดการของมูลนิธิฯ ท่านจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่มูลนิธิฯ เพื่อที่มูลนิธิฯ จะสามารถนำไปประมวลผลและดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชี การใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ ตามคำขอของท่าน การคำนวณและให้สิทธิอันเกิดจากการลงทุน การปฏิบัติตามกระบวนการภายในของมูลนิธิฯ การติดต่อสื่อสารกับท่าน การติดตามและแจ้งผลประโยชน์ การเปลี่ยนแปลงลักษณะของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตอบข้อซักถาม และการแจ้งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อันเป็นกรณีตามฐานสัญญา ตามมาตรา 24 (3) ของ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
2.2. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
มูลนิธิฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลผลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำกับดูแลการประกอบธุรกิจของมูลนิธิฯ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า และทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน กฎหมายเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมทั้งการปฏิบัติตามกฎหมายที่ควบคุมการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกองทุน กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา และกฎหมายอื่นที่กำหนดหรือบังคับให้มูลนิธิฯ มีหน้าที่ต้องส่งหรือรายงานข้อมูล เช่น เพื่อการป้องกันและตรวจจับความผิดปรกติของธุรกรรมที่นำไปสู่กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย การรายงานข้อมูลของลูกค้าต่อกรมสรรพากร การรายงานข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือกรมสรรพากร หรือเมื่อมูลนิธิฯ ได้รับหมายเรียก หมายอายัดจากหน่วยงานราชการ หรือ ศาล เป็นต้น อันเป็นกรณีตามฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย ตามมาตรา 24 (6) ของ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
2.3. เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิฯ (Legitimate Interest)
มูลนิธิฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลผลตามฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 24 (5) ของ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ เช่น
2.4. ประมวลผลตามฐานความยินยอม (Consent)
มูลนิธิฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการออกแบบหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อนำเสนอและแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ กิจกรรมทางการตลาดของมูลนิธิฯ หรือเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบตรง หากท่านประสงค์จะถอนความยินยอมในการประมวลผลดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อมูลนิธิฯ และแจ้งความประสงค์ได้ตามข้อ 7
ทั้งนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับมูลนิธิฯ อาจส่งผลกระทบต่อท่านในการไม่ได้รับการให้ผลิตภัณฑ์/บริการ ไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญา และท่านอาจได้รับความเสียหาย/เสียโอกาส และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่ท่านหรือมูลนิธิฯ ต้องปฏิบัติตาม และอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง
3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิฯ อาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้
มูลนิธิฯ ไม่มีการทำการตลาดเพื่อบุคคลที่สาม และไม่มีการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด
4. การประมวลผลโดยระบบอัตโนมัติ
ภายใต้การได้รับความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้ง มูลนิธิฯ อาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการประมวลผลโดยระบบอัตโนมัติซึ่งอาจจะมีผลต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือเพื่อการรวบรวมข้อมูลอื่นๆ หากท่านประสงค์จะถอนความยินยอม ท่านสามารถติดต่อมูลนิธิฯ และแจ้งความประสงค์ได้ตามข้อ 9
5. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิฯ คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคลของท่านซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านควรทราบ ได้แก่
การร้องขอใดๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่ได้กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และมูลนิธิฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด โดยมูลนิธิฯ จะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
อนึ่ง ในกรณีที่ท่านขอให้มูลนิธิฯ ลบ ทำลาย จำกัดการประมวลผลข้อมูล ระงับการใช้ชั่วคราว แปลงข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือถอนความยินยอม อาจทำให้เกิดข้อจำกัดกับมูลนิธิฯ ในการทำธุรกรรมหรือการให้บริการแก่ท่านได้ ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้น มูลนิธิฯ ขอสงวนสิทธิในการคิดค่าบริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ
6. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิฯ มีการกำหนดนโยบาย คู่มือและมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ทั้งมาตรการในการบริหารจัดการ (Organizational Measure) และมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของท่านโดยมิได้รับอนุญาต หรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ระบบสารสนเทศในการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด นโยบายการรักษาข้อมูลความลับของลูกค้า เป็นต้น และมูลนิธิฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย คู่มือและมาตรฐานขั้นต่ำดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ พนักงาน ลูกจ้าง และผู้ให้บริการภายนอกของมูลนิธิฯ ก็มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามสัญญาการเก็บรักษาความลับที่ได้ลงนามไว้กับมูลนิธิฯ
ในกรณีที่มูลนิธิฯ มีความจำเป็นต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศที่มีมาตรฐานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่าประเทศไทย มูลนิธิฯ จะดำเนินมาตรการตามที่เห็นว่าจำเป็นอย่างน้อยตามมาตรฐานการรักษาความลับที่กฎหมายของประเทศนั้นๆ กำหนดไว้ เช่น มีข้อสัญญารักษาความลับกับคู่สัญญาในประเทศดังกล่าว เป็นต้น
7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิฯ อาจไม่สามารถลบข้อมูลทั้งหมดของท่านออกจากฐานข้อมูลของของมูลนิธิฯ ได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่มีข้อมูลที่เหลืออยู่เนื่องจากการสำรองข้อมูลและเหตุผลอื่นๆ มูลนิธิฯ จะเก็บรักษาข้อมูลของท่านตราบเท่าที่ข้อมูลนั้นยังจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ของการรวบรวมข้อมูล ในกรณีที่ท่านยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับมูลนิธิฯ ไปแล้ว มูลนิธิฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กฎหมายว่าด้วยการบัญชี กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายภาษีอากร และตามนโยบาย คู่มือต่างๆ ในเรื่องการจัดเก็บและทำลายเอกสารต่างๆ ของมูลนิธิฯ และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาในการเก็บแล้วมูลนิธิฯ จะทำการลบทำลาย หรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถระบุถึงตัวบุคคลได้
8. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายความเป็นส่วนตัวของมูลนิธิฯ อาจมีการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขเป็นระยะๆ โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว มูลนิธิฯ จะแสดงนโยบายฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้บนเว็ปไซต์ของมูลนิธิฯ www.principal.th
9. ข้อมูลการติดต่อบลจ.
หากท่านต้องการติดต่อหรือมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การใช้สิทธิตามข้อ 5 หรือถอนความยินยอม หรือมีข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อมูลนิธิฯ ได้ดังช่องทางต่อไปนี้